ไทยโชว์

รายการไทยโชว์ นำเสนอ “ปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์” วงดนตรีที่ถูกขนานนามว่าคือ วงดนตรี โอเปร่า ของเมืองไทย ในวาระโอกาสสำคัญคล้ายวันประสูติของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ พระบิดาแห่งศิลปะไทย ซึ่งจะมีจัดงาน วันนริศ ทุกวันที่ 28 เมษายนของทุกปี “โอเปร่าของเมืองไทย เกิดขึ้นมาไม่น้อยกว่า 110 ปีแล้ว หลังจากที่ เจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ (ม.ร.ว. หลาน กุญชร) ไปยุโรปมา ได้เห็นละครโอเปร่าที่ฝรั่งเล่นแล้วเกิดติดอกติดใจ จึงมาปรึกษาหารือกับ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้า ฯ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงเห็นดีเห็นงามด้วย ประจวบเหมาะกับที่ก่อนหน้านี้ ทรงเคยสร้างสรรค์ปรับปรุงวงปี่พาทย์ให้มีเสียงที่ไพเราะทุ้มนุ่มนวล คล้ายๆออเครสตร้าอยู่แล้ว จึงนำมาใช้กับงานนี้ได้เลย โดยเจ้าพระยาเทเวศร์ฯ ได้ลงทุนสร้างโรงละครที่บ้านของท่านเอง ชื่อว่า "โรงละคอนดึกดำบรรพ์" เริ่มเล่นตั้งแต่ปี พ.ศ.2442 ซึ่งเป็นที่มาของการเรียกวงดนตรีปี่พาทย์ที่เล่นประกอบการแสดงละครนี้ว่า ปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์” คมสันต์ สุทนต์ พิธีกรหนุ่มอารมณ์ดี แห่งรายการไทยโชว์ เล่าที่มาของปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์ให้ฟังอย่างสนุกสนาน

“เบิกหน้าพระ”หนึ่งในขั้นตอนการไหว้ครูหนังใหญ่ พิธีกรรมความเชื่อที่ศิลปะการแสดงของไทยทุกแขนงต้องหยุดให้เมื่อถึงช่วงเวลานั้น ด้วยความอลังการและความสง่างาม ในฐานะมหรสพหลวง “ก่อนที่หนังใหญ่จะแสดงทุกครั้ง จะต้องมีการเบิกหน้าพระ โดยนำหนังครูหรือหนังเจ้า 3 ตัว มีพระฤาษี พระนารายณ์และพระอิศวร อัญเชิญมาตั้งรียงกันแล้วทำการไหว้ครู ถวายเครื่องสังเวย ที่ด้านหน้าจอหนัง จะมีอ่านโองการ ปี่พาทย์บรรเลงประกอบต่อเนื่องตลอดเวลาจนเสร็จพิธี ...ถ้าหากใครได้มีโอกาสอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ จะสัมผัสได้ถึงความขลัง อลังการและความสง่างาม ของหนังใหญ่ในฐานะมหรสพหลวงครับ” คมสันต์ สุทนต์ พิธีกรหนุ่ม รายการไทยโชว์ เล่าเกริ่นบรรยากาศพิธีกรรม “เบิกหน้าพระ” ไหว้ครูหนังใหญ่ พร้อมเสริมความเป็นมา “แล้วถ้าได้รู้ว่า หนังครูแต่ละตัว ที่เบิกหน้าพระไหว้ครู มีความเป็นมาอย่างไรก็จะยิ่งสร้างความศรัทธาเพิ่มขึ้นไปอีก.. อย่างหนังพระฤาษีทำด้วยหนังหมีหรือหนังเสือ ส่วนหนังพระนารายณ์และพระอิศวร ต้องหาวัว(โค)ตายทั้งยังท้องอยู่มาทำ เรียกว่าหนังโคตายพราย พิธีสลักก็ต้องทำพิเศษ ช่างที่ทำจะต้องรักษาศีล นุ่งขาวห่มขาว และต้องเขียนและแกะสลักให