คมสันต์ ไทยโชว์ เชิญสัมผัสชีวิตโลดโผนของ “เด็กโขน” อาทิตย์ 21 มีนาคมนี้
ข่าวประชาสัมพันธ์ไทยโชว์
คมสันต์ ไทยโชว์ เชิญสัมผัสชีวิตโลดโผนของ “เด็กโขน” อาทิตย์ 21 มีนาคมนี้
คมสันต์ สุทนต์ ผู้ดำเนินรายการไทยโชว์เชิญสัมผัสชีวิตจิตใจของเด็กโขน กลุ่มเด็กผู้ชายที่ทุ่มชีวิต
เพื่อศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย พร้อมชมโขนตอนสำคัญ “หนุมานรบมัจจานุ, ศึกวิรุณจำบังและสุครีพถอนต้นรัง”
หนุมานรบมัจฉานุ (ลิงรบลิงผสมปลา)
พระรามถูกยักษ์ชื่อไมยราพณ์ ลักพาตัวเพื่อสังหารโดยขังไว้ที่บาดาล หนุมานตามมาช่วยโดยต้องผ่านด่านอันตรายมากมาย จนมาถึงด่านชั้นในซึ่งเป็นด่านสุดท้าย ได้พบกับลิงน้อยซึ่งมีหางเป็นปลา ทั้งสองได้ต่อสู้กันผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ หนุมานเกิดความสงสัยจึงได้สอบถาม มัจฉานุก็ตอบไปว่าเป็นลูกของหนุมานและนางสุพรรณมัจฉา สองพ่อลูกได้พบกันก็ดีใจเป็นอันมาก จุดเด่นในการแสดงนี้ผู้แสดงจะมีวัยต่างกันจึงทำให้เห็นความแตกต่างในลีลาการต่อสู้ โดยเฉพะการขึ้นลอยของตัวมัจฉานุซึ่งจะเป็นเอกลักษณ์ ( ลอยมัจฉานุ )อีกทั้งการแสดงจะถ่ายทอดอารมณ์เพื่อสื่อความรู้สึกระหว่างพ่อกับลูก และแสดงให้เห็นภูมิปัญญาของปรมาจารย์ฝ่ายครูลิงซึ่งสามารถสร้างสรรค์งานได้ อย่างดีเยี่ยม
ศึกวิรุญจำบัง(ค้นฟอง)
วิรุญจำบังซึ่งเป็นหลานทศกันฐ์ได้อาสาทำศึกกับพระราม วิรุญจำบังขี่ม้าชื่อนิลพาหุ และตนเองสามารถกำบังตนและม้าได้ ในขณะที่ทำศึกอยู่นั้น วิรุณจำบังก็ได้ร่ายเวทกำบังตนและม้าเข้าไล่แทงพลลิงทำให้เหล่าพลลิงล้มตาย มากมาย พระรามเกิดความสงสัยถามพิเภกว่าเกิดอะไรขึ้น พิเภกทูลความและขอให้พระรามแผลงศรไปทำลายวิรุญจำบัง พระรามแผลงศรไปถูกมานิลพาหุล้มลง วิรุยจำบังเสียใจมาก ตกใจพรั่นตัวกลัวตาย จึงได้เปลื้องผ้าโพกศีรษะผูกเป็นพยนต์ขี่ม้าคือหอกเข้ารบแทน โดยวิรุยจำบังเหาะหนีไปยังเขาอังกาศและได้พบกับนางวานรินทร์ จึงเล่าว่าตนเองหนีศรพระรามมาขอทางให้ช่วย นางวานรินทร์ได้ยินดังนั้นก็ดีใจเพราะตนเองจะได้พ้นคำสาป นางวานรินทร์บอกให้วิรุญจำบังหนีไปยังสมุทรใต้ เชิงเขาสัตภ์เมท์สีทัมดรระหว่างอัศกรรณ์นั้นเป็นที่พญานาคอาศัยอยู่ ไม่มีใครจะหาพบได้โดยได้นิมิตรเป็นตัวไรเข้าซ่อนอยู่ในฟองน้ำเห็นว่าจะพ้น ชีวิตได้ วิรุญจำบังก็รีบไปสีทันดรทันที หนุมานตามมาพบนางวานรินทร์ นางจึงเล่าให้ฟังทั้งหมด หนุมานตามไปที่ฝังนทีสีทันดรแลเห็นฟองน้ำมากมาย แต่มีฟองหนึ่งที่ใหญ่กว่าปกติ จึงมั่นใจว่าวิรุญจำบังอาศัยอยู่แน่นอนจึงเข้าทำลาย วิรุญจำบังตกใจจึงออกจากฟองน้ำและเข้าต่อสู้กัน หนุมานจึงได้สังหารวิรุญจำบังและนำศีรษะไปถวายพระราม
จุด เด่นอยู่การขึ้นลอยซึ่งปัจจุบัน ไม่ค่อยได้ชมกันเท่าไร การขึ้นลอยของวิรุญจำบังและหนุมานจะเป็นเฉพาะของตัวละครในตอนนี้
สุครีพถอนต้นรัง (สามจับ)
กุมกรรณได้ออกอุบายให้สุครีพไปถอนต้นรังในกลางทวีปอุดรเพื่อให้อ่อนแรง สุครีพหลงกลไปถอนต้นรังทันที เมื่อนถอนตันรังได้ก็แบกกลับมาที่สนามรบ กุมกรรณได้ทีก้จับตัวสุครีพหนีบรักแร้พาไปกรุงลงกา
กุมกรรณ พาสุครีพจวนจะถึงกรุงลงกา หนุมานและองคตช่วยไว้ทัน เกิดการต่อสู้กันระหว่างกุมกรรณ หนุมาน และองคต กุมกรรณสู้ไม่ได้ถูกสุครีพกัดจมูก หนุมานกัดหู องคตกัดสีข้าง เลือดไหลโทรมจึงหนีเข้าเมือง
จุดเด่นการใช้กระบวนท่าในการต่อสู้ ซึ่งครู อาจารยืได้สร้างสรรค์งานได้อย่างสนุก ตื่นเต้น สอดคล้อง แฝงด้วยข้อคิดต่างๆ ซึ่งกระบวนการต่อสู้ในการแสดงโขนตอนนี้ ปัจจุบันมีผู้สืบทอดเพียงวิทยาลัยนาฏศิลป และหมู่ศิลปินกรมศิลปากร เท่านั้น
สัมผัสแรงบันดาลใจและความอดทนที่ผสานให้เด็กโขนกลุ่มนี้กล้าแกร่งใน ไทยโชว์ “เด็กโขน”
วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม 2553 เวลา 18.00 น. ชมรายการย้อนหลัง www.thaipbs.or.th/Thaishow
คมสันต์ ไทยโชว์ เชิญสัมผัสชีวิตโลดโผนของ “เด็กโขน” อาทิตย์ 21 มีนาคมนี้
คมสันต์ สุทนต์ ผู้ดำเนินรายการไทยโชว์เชิญสัมผัสชีวิตจิตใจของเด็กโขน กลุ่มเด็กผู้ชายที่ทุ่มชีวิต
เพื่อศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย พร้อมชมโขนตอนสำคัญ “หนุมานรบมัจจานุ, ศึกวิรุณจำบังและสุครีพถอนต้นรัง”
หนุมานรบมัจฉานุ (ลิงรบลิงผสมปลา)
พระรามถูกยักษ์ชื่อไมยราพณ์ ลักพาตัวเพื่อสังหารโดยขังไว้ที่บาดาล หนุมานตามมาช่วยโดยต้องผ่านด่านอันตรายมากมาย จนมาถึงด่านชั้นในซึ่งเป็นด่านสุดท้าย ได้พบกับลิงน้อยซึ่งมีหางเป็นปลา ทั้งสองได้ต่อสู้กันผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ หนุมานเกิดความสงสัยจึงได้สอบถาม มัจฉานุก็ตอบไปว่าเป็นลูกของหนุมานและนางสุพรรณมัจฉา สองพ่อลูกได้พบกันก็ดีใจเป็นอันมาก จุดเด่นในการแสดงนี้ผู้แสดงจะมีวัยต่างกันจึงทำให้เห็นความแตกต่างในลีลาการต่อสู้ โดยเฉพะการขึ้นลอยของตัวมัจฉานุซึ่งจะเป็นเอกลักษณ์ ( ลอยมัจฉานุ )อีกทั้งการแสดงจะถ่ายทอดอารมณ์เพื่อสื่อความรู้สึกระหว่างพ่อกับลูก และแสดงให้เห็นภูมิปัญญาของปรมาจารย์ฝ่ายครูลิงซึ่งสามารถสร้างสรรค์งานได้ อย่างดีเยี่ยม
ศึกวิรุญจำบัง(ค้นฟอง)
วิรุญจำบังซึ่งเป็นหลานทศกันฐ์ได้อาสาทำศึกกับพระราม วิรุญจำบังขี่ม้าชื่อนิลพาหุ และตนเองสามารถกำบังตนและม้าได้ ในขณะที่ทำศึกอยู่นั้น วิรุณจำบังก็ได้ร่ายเวทกำบังตนและม้าเข้าไล่แทงพลลิงทำให้เหล่าพลลิงล้มตาย มากมาย พระรามเกิดความสงสัยถามพิเภกว่าเกิดอะไรขึ้น พิเภกทูลความและขอให้พระรามแผลงศรไปทำลายวิรุญจำบัง พระรามแผลงศรไปถูกมานิลพาหุล้มลง วิรุยจำบังเสียใจมาก ตกใจพรั่นตัวกลัวตาย จึงได้เปลื้องผ้าโพกศีรษะผูกเป็นพยนต์ขี่ม้าคือหอกเข้ารบแทน โดยวิรุยจำบังเหาะหนีไปยังเขาอังกาศและได้พบกับนางวานรินทร์ จึงเล่าว่าตนเองหนีศรพระรามมาขอทางให้ช่วย นางวานรินทร์ได้ยินดังนั้นก็ดีใจเพราะตนเองจะได้พ้นคำสาป นางวานรินทร์บอกให้วิรุญจำบังหนีไปยังสมุทรใต้ เชิงเขาสัตภ์เมท์สีทัมดรระหว่างอัศกรรณ์นั้นเป็นที่พญานาคอาศัยอยู่ ไม่มีใครจะหาพบได้โดยได้นิมิตรเป็นตัวไรเข้าซ่อนอยู่ในฟองน้ำเห็นว่าจะพ้น ชีวิตได้ วิรุญจำบังก็รีบไปสีทันดรทันที หนุมานตามมาพบนางวานรินทร์ นางจึงเล่าให้ฟังทั้งหมด หนุมานตามไปที่ฝังนทีสีทันดรแลเห็นฟองน้ำมากมาย แต่มีฟองหนึ่งที่ใหญ่กว่าปกติ จึงมั่นใจว่าวิรุญจำบังอาศัยอยู่แน่นอนจึงเข้าทำลาย วิรุญจำบังตกใจจึงออกจากฟองน้ำและเข้าต่อสู้กัน หนุมานจึงได้สังหารวิรุญจำบังและนำศีรษะไปถวายพระราม
จุด เด่นอยู่การขึ้นลอยซึ่งปัจจุบัน ไม่ค่อยได้ชมกันเท่าไร การขึ้นลอยของวิรุญจำบังและหนุมานจะเป็นเฉพาะของตัวละครในตอนนี้
สุครีพถอนต้นรัง (สามจับ)
กุมกรรณได้ออกอุบายให้สุครีพไปถอนต้นรังในกลางทวีปอุดรเพื่อให้อ่อนแรง สุครีพหลงกลไปถอนต้นรังทันที เมื่อนถอนตันรังได้ก็แบกกลับมาที่สนามรบ กุมกรรณได้ทีก้จับตัวสุครีพหนีบรักแร้พาไปกรุงลงกา
กุมกรรณ พาสุครีพจวนจะถึงกรุงลงกา หนุมานและองคตช่วยไว้ทัน เกิดการต่อสู้กันระหว่างกุมกรรณ หนุมาน และองคต กุมกรรณสู้ไม่ได้ถูกสุครีพกัดจมูก หนุมานกัดหู องคตกัดสีข้าง เลือดไหลโทรมจึงหนีเข้าเมือง
จุดเด่นการใช้กระบวนท่าในการต่อสู้ ซึ่งครู อาจารยืได้สร้างสรรค์งานได้อย่างสนุก ตื่นเต้น สอดคล้อง แฝงด้วยข้อคิดต่างๆ ซึ่งกระบวนการต่อสู้ในการแสดงโขนตอนนี้ ปัจจุบันมีผู้สืบทอดเพียงวิทยาลัยนาฏศิลป และหมู่ศิลปินกรมศิลปากร เท่านั้น
สัมผัสแรงบันดาลใจและความอดทนที่ผสานให้เด็กโขนกลุ่มนี้กล้าแกร่งใน ไทยโชว์ “เด็กโขน”
วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม 2553 เวลา 18.00 น. ชมรายการย้อนหลัง www.thaipbs.or.th/Thaishow
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น